Tuesday, 21 March 2023

นักวิจัยค้นพบว่ามลพิษทางอากาศนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งปอดได้อย่างไร

นักค้นคว้าศึกษาค้นพบว่ามลภาวะทางอากาศนำไปสู่การเกิด โรคมะเร็งปอด ได้เช่นไร ซึ่งถือเป็นการศึกษาค้นพบที่เปลี่ยนแปลงความรู้ความเข้าใจถึงการเกิดขึ้นของเนื้องอก โดยเฉพาะในคนที่ไม่เคยแม้แต่จะสูบบุหรี่เลย

เมื่อเดือน ก.ย. ทีมงานวิจัยสถาบันฟรานซิส คริก ในกรุงลอนดอน กล่าวว่า มลภาวะทางอากาศนำมาซึ่งการก่อให้เกิดมะเร็งปอดได้จริง ถึงแม้ในคนที่ไม่สูบบุหรี่ ด้วยการกระตุ้นหรือปลุกเซลล์เก่าๆที่เสียหายขึ้นมา มากยิ่งกว่าการผลิตความเสียหายให้เซลล์ ตามความเชื่อเดิม

หนึ่งในผู้ชำนาญระดับนานาชาติเป็นศ.จ. ชาร์ลส์ สแวนตัน กล่าวว่า การศึกษาค้นพบดังกล่าวข้างต้นทำให้วงการแพทย์ “ไปสู่ยุคใหม่” และบางทีอาจนำไปสู่การพัฒนาตัวยา เพื่อยับยั้งโรคมะเร็งไม่ให้ก่อตัวขึ้น

ความเสี่ยงเกิดมะเร็งปอด

โรคมะเร็งปอด โดยธรรมดาแล้ว การก่อตัวของโรคมะเร็งจะเกิดเป็นลำดับขั้นตอนเป็นเริ่มจากเซลล์ที่แข็งแรง

และก็หลังจากนั้นจึงค่อยๆเกิดการกลายพันธุ์ในระดับสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ จนกระทั่งจุดที่เปลี่ยนเป็นเซลล์ไม่ดีเหมือนปกติ สู่เซลล์ของมะเร็ง และเติบโตอย่างควบคุมมิได้

แต่ว่าแนวคิดการเกิดโรคมะเร็งเช่นนี้ มีปัญหา เนื่องจากว่าการกลายพันธุ์เป็นเซลล์ของมะเร็งได้เกิดขึ้นในเนื้อเยื่อที่แข็งแรง แต่กลับเปลี่ยนเป็นว่าต้นตอของโรคมะเร็ง รวมถึงมลภาวะทางอากาศ มิได้ทำความเสียหายต่อดีเอ็นเอ แต่ว่าเป็นการกระตุ้นเซลล์ที่เสียหายให้กลับมาทำงานอีกรอบมากกว่า

ศ.จ. สแวนตัน กล่าวว่า “การเสี่ยงเกิดมะเร็งปอดจากมลภาวะทางอากาศ มีน้อยกว่าการสูบบุหรี่ แต่ว่าเนื่องจากว่ามนุษย์ควบคุมการหายใจของตนเองไม่ได้ และทั่วทั้งโลก ผู้คนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัยจากมลภาวะทางอากาศมากขึ้นเรื่อยๆกว่า การดมสารเคมีที่เป็นพิษจากควันจากบุหรี่”

แล้วเกิดอะไรขึ้น?

นักค้นคว้าซึ่งดำเนินงานอยู่ที่มหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน หรือยูซีแอล ได้ศึกษาค้นพบหลักฐานถึงแนวคิดใหม่ถึงการเกิดโรคมะเร็ง โดยเฉพาะในบุคคลที่ไม่สูบบุหรี่ โดยกล่าวว่า จริงๆแล้ว ความเสียหายได้ฝังตัวอยู่ในดีเอ็นเอของเซลล์ ในขณะที่เราเติบโตและแก่มากขึ้นเรื่อยๆ

มลพิษทางอากาศ

แต่ว่าต้องมีสิ่งที่มากระตุ้นความเสียหายในดีเอ็นเอของเซลล์ก่อน มันถึงจะกลายเป็นเซลล์ของมะเร็งได้

การศึกษาค้นพบนี้ มาจากการตรวจสอบว่าเพราะเหตุใดบุคคลที่ไม่สูบบุหรี่ถึงเป็นโรคมะเร็งปอด แน่นอนว่า ปัจจัยจำนวนมากของผู้ป่วยมะเร็งปอดมาจากการสูบบุหรี่ แต่ว่าก็พบว่า 1 ใน 10 ของผู้ป่วยมะเร็งปอดในสหราชอาณาจักร มีต้นเหตุที่เกิดจากมลภาวะทางอากาศ

ทีมงานวิจัยของสถาบันฟรานซิส คริก ให้ความเอาใจใส่กับอนุภาคฝุ่นผงหลังเที่ยงวัน 2.5 (PM 2.5) ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเส้นผมของมนุษย์

และเมื่อดำเนินการทดลองในสัตว์และมนุษย์โดยละเอียด พวกเขาพบว่า สถานที่ที่มีมลภาวะทางอากาศสูง จะเจอผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดที่มิได้มีเหตุมาจากการสูบบุหรี่ ในสัดส่วนที่มากขึ้น

โดยเมื่อสูดฝุ่นพีเอ็ม 2.5 เข้าไปภายในร่างกาย จะเป็นตัวกระตุ้นให้หลั่ง “อินเทอร์ลิวคิน 1 เบตา” ออกมา เป็นการสนองตอบทางเคมี จนนำไปสู่อาการอักเสบ จนร่างกายจะต้องกระตุ้นเซลล์ในปอดให้เข้ามาซ่อมบำรุง

แต่ว่าเซลล์ปอดนั้น ทุกๆ600,000 เซลล์ ในบุคคลอายุราว 50 ปี จะมีอย่างต่ำหนึ่งเซลล์ ที่สุ่มเสี่ยงต่อการกลายพันธุ์เป็นเซลล์ของมะเร็งได้ ซึ่งธรรมดาแล้ว ร่างกายจะเกิดเซลล์ที่สุ่มเสี่ยงนี้ เมื่อมนุษย์อายุมากขึ้น แต่ว่าเซลล์จะยังดูแข็งแรงอยู่ จนกว่าจะถูกกระตุ้นให้กลายพันธุ์

การศึกษาค้นพบที่สำคัญยิ่งกว่าเป็นนักค้นคว้าสามารถยับยั้งการก่อมะเร็งในหนูที่ปล่อยให้พบเจออยู่ในสภาวะมลภาวะทางอากาศ ด้วยการใช้ตัวยาเพื่อยับยั้งการโต้ตอบทางเคมีดังกล่าวข้างต้น ผลก็เลยถือเป็นการศึกษาค้นพบครั้งใหญ่ 2 ครั้งซ้อนคือเพิ่มความรู้ความเข้าใจถึงผลกระทบของมลภาวะทางอากาศ และแนวทางเกิดโรคมะเร็งภายในร่างกาย

ดร. เอมิเลีย ลิม หนึ่งในผู้ศึกษาค้นคว้าและวิจัย ซึ่งประจำอยู่ที่คริกและยูซีแอล กล่าวว่า โดยธรรมดาแล้ว บุคคลที่ไม่เคยสูบบุหรี่เลย แต่กลับเป็นโรคมะเร็งปอด ชอบไม่เคยทราบถึงปัจจัย

“โดยเหตุนี้ การให้เบาะแสพวกเขาถึงปัจจัยการเกิดโรคมะเร็ง ก็เลยเป็นเรื่องสำคัญมาก” และ “ยิ่งสำคัญมากขึ้น เมื่อประชากร 99% ในโลก ล้วนอาศัยอยู่ในสถานที่ที่ระดับมลภาวะทางอากาศ สูงเกิดกว่าคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก”

คิดเรื่องโรคมะเร็งเสียใหม่

ผลของการทดลองนี้ ยังชี้ให้เห็นว่า การกลายพันธุ์ในเซลล์เพียงอย่างเดียว ไม่ใช่ต้นสายปลายเหตุนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งเสมอไป แต่ว่าอาจมีต้นสายปลายเหตุอื่นเสริมด้วย

ศ.จ. สแวนตัน กล่าวว่า การศึกษาค้นพบที่น่าตื่นเต้นที่สุดในห้องทดลองเป็น“แนวคิดการเกิดเนื้องอกที่จะต้องหันกลับมาทบทวนเสียใหม่” และนี่บางทีอาจนำไปสู่ “ยุคใหม่” ของการป้องกันโรคมะเร็งในระดับโมเลกุล เป็นต้นว่า แนวคิดที่ว่าถ้าหากคุณอยู่ในสถานที่ที่มีมลภาวะทางอากาศสูง คุณอาจทานยาต่อต้านโรคมะเร็งได้ เพื่อลดการเสี่ยง

ศ.จ. สแวนตัน บอกกับสถานีวิทยุกระจายเสียงบีบีซีว่า เราบางทีอาจจะต้องพิจารณาถึงแนวทางที่ว่า การสูบบุหรี่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ด้วยซ้ำ และที่จริง แนวคิดที่ว่า ดีเอ็นเอกลายพันธุ์นั้นน้อยเกินไปที่จะนำมาซึ่งการก่อให้เกิดโรคมะเร็ง เนื่องจากว่าต้องมีต้นสายปลายเหตุอื่นกระตุ้นให้เซลล์ของมะเร็งเติบโต มีการนำเสนอมาตั้งแต่ปี 1947 แล้ว โดย ไอแซค เบเรนบลูม

อย่างไรก็ดี มิเชลล์ มิตเชลล์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคมะเร็งแห่งสหราชอาณาจักร ย้ำว่า เดี๋ยวนี้ “บุหรี่ยังเป็นสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งปอด” แต่ว่า “วิทยาศาสตร์ อาศัยการทำงานอย่างหนักยาวนานหลายปี และกำลังเปลี่ยนแนวคิดว่าโรคมะเร็งเกิดขึ้นได้เช่นไร และขณะนี้ เรามีความรู้และมีความเข้าใจถึงแรงกระตุ้นให้เกิดโรคมะเร็งได้มากขึ้นแล้ว”

แล้วมะเร็งปอดพบเห็นได้มากมากแค่ไหน ชมรมอเมริกันแคนเซอร์ กล่าวว่า มะเร็งปอดทั้งแบบจำพวกเซลล์เล็ก และจำพวกไม่ใช่เซลล์เล็ก เป็นโรคมะเร็งที่มักพบที่สุดอันดับ 2 ในสหรัฐอเมริกา ในตอนที่ในเพศชายนั้น โรคมะเร็งที่มักพบที่สุดคือโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ส่วนสตรีนั้น จะเป็นโรคมะเร็งเต้านม

ทางชมรมประเมินว่า ปี 2022 เจอผู้ป่วยมะเร็งปอดมากขึ้นเรื่อยๆ 236,740 คน และเสียชีวิต 130,180 คน โดยผู้ป่วยมะเร็งปอดจำนวนมาก เป็นผู้สูงวัย 65 ปีขึ้นไป แต่ว่าก็ได้โอกาส แม้ว่าจะน้อยมากๆที่ประชาชนอายุ ชน้อยกว่า 45 ปี จะเป็นโรคมะเร็งปอด โดยอายุเฉลี่ยของผู้ป่วยมะเร็งปอดอยู่ที่ 70 ปี

มะเร็งปอดยังคิดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง เกือบจะ 25% ของคนตายจากโรคมะเร็งทั้งหมด

สำหรับประเทศไทยนั้น หมอวีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า มะเร็งปอดเป็นโรคมะเร็งที่มักพบที่สุดทั่วทั้งโลก สำหรับประเทศไทยโรคมะเร็งปอดนับว่าเป็น 1 ใน 5 ของโรคมะเร็งที่พบได้บ่อย ซึ่งมักพบเป็นอันดับ 2 ในผู้ชาย และอันดับ 5 ในผู้หญิง แต่ละปีจะมีผู้ป่วยรายใหม่โดยประมาณ 17,222 ราย เป็นเพศชาย 10,766 ราย และผู้หญิง 6,456 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีคนตายโดยประมาณ 14,586 ราย หรือคิดเป็น 40 รายต่อวัน

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคมะเร็งปอดคือการสูบบุหรี่หรือการได้รับควันจากบุหรี่มือสองและการสัมผัสสารก่อโรคมะเร็ง เป็นต้นว่า ก๊าซเรดอน แร่ใยหิน รังสี ควันธูป ควันจากท่อไอเสีย และมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นผงพีเอ็ม 2.5

การสูดสารเคมี